บาคาร่า 101 รวมทุกเรื่องที่มือใหม่ต้องรู้

                บาคาร่าเกมที่เล่นง่ายแต่ทำกำไรยาก ถึงจะมีพื้นฐานคล้าย ๆ กับป๊อกเด้งในบ้านเรา แต่มันก็เป็นเกมที่ทำเอาหลายคนหมดเนื้อหมดตัวกันไปเยอะ แถมยังชอบพลิกเกมด้วยการจั่วไพ่เพิ่มขึ้นมาจากฝั่งที่เราวางเดิมพันไว้น่าจะชนะก็กลายเป็นแพ้หน้าตาเฉย แบบนี้จะเรียกว่าโดนโกงได้หรือไม่ แท้จริงแล้วบาคาร่าต้องเล่นอย่างไร เราจะพาไปลงทะเบียนเรียนวิชา “บาคาร่า 101” บอกเลยว่าวิชานี้มือใหม่ทุกคนต้องเรียน ต้องรู้ก่อนเล่น

บาคาร่า คืออะไร

บาคาร่าเป็นเกมไพ่ที่มีรูปแบบการเล่นคล้ายกับป๊อกเด้ง คือเป็นการเล่นระหว่างฝั่งเจ้ามือกับผู้เล่น โดยแต่ละฝั่งจะได้รับแจกไพ่ 2 ใบ ฝั่งไหนได้แต้มรวมใกล้เคียง 9 แต้ม หรือมีแต้มมากกว่าอีกฝ่ายก็จะเป็นผู้ชนะ แต่ที่เป็นจุดเด่นเลยก็คือเกมนี้มีการจั่วไพ่เพิ่มหรือที่เรียกว่ากฎไพ่ใบที่สามที่อาจพลิกสถานการณ์จะฝั่งที่น่าจะแพ้ให้กลับมาชนะได้ตลอดเวลา จึงไม่แปลกที่เกมนี้จะได้รับความนิยมอย่างมากจนกลายเป็นหนึ่งในเกมที่คาสิโนออนไลน์ต้องมีติดเอาไว้

ประเภทของบาคาร่า

บาคาร่าเป็นเกมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้เกมนี้ได้รับการพัฒนาออกไปหลากหลายประเภท ที่ยังคงเห็นและมีให้เล่นในปัจจุบันก็มี

Punto Banco

เป็นรูปแบบการเล่นที่พบได้บ่อยมากในคาสิโนแถบอเมริกา, แคนาดา และออสเตรเลีย รวมถึงตามคาสิโนออนไลน์บนโลกอินเทอร์เน็ตอีกด้วย

Chemin De Fer

เป็นบาคาร่าสไตล์ยุโรปที่มีความแตกต่างจากสไตล์อเมริกันตรงที่ ผู้เล่นทุกคนจะทำข้อตกลงหรือกติการ่วมกัน และการเป็นเจ้ามือหรือดีลเลอร์ก็จะเวียนกันรอบโต๊ะเหมือนกับโป๊กเกอร์

Baccarat en Banque

เป็นบาคาร่าอีกรูปแบบหนึ่งที่นิยมเล่นกันในแถบยุโรป รูปแบบการเล่นจะเป็นการใช้ไพ่ 3 สำรับ ส่วนเจ้ามือจะมาจากคนที่พร้อมจะเสียมากที่สุดและมาด้วยความเต็มใจเท่านั้น

Super Pan 9

รูปแบบเกมจะแตกต่างจากแบบทั่ว ๆ ไปตรงที่ใช้ไพ่หน้า A, 2, 3, 4, 5 และ 6 ในการเล่นเท่านั้น หมายความว่าในเกมนี้จะเหลือไพ่เพียงแค่ 36 ใบ พบได้ง่ายในสหรัฐอเมริกา

3 Cards

ไพ่ชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในเอเชีย เพราะทั้งฝั่งผู้เล่นและเจ้ามือต่างมีไพ่ให้เล่นเพียงแค่ 3 ใบเท่านั้น

คำศัพท์ที่ต้องรู้ก่อนเล่น

Player    หมายถึงฝ่ายผู้เล่น ในที่นี้คือการวางเดิมพันเพื่อทายว่าฝั่งผู้เล่นจะเป็นฝ่ายชนะด้วยแต้มไพ่ที่เหนือกว่า

                Banker   หมายถึงฝ่ายเจ้ามือ ในที่นี้คือการทายว่าฝั่งเจ้ามือจะมีแต้มรวมของไพ่มากกว่าและเป็นฝ่ายชนะ

                Tie          หมายถึงทายว่าผลรวมของแต้มไพ่ทั้งสองฝ่ายจะออกมาเท่ากัน ผลเป็นเสมอกัน

                Player Pair  เป็นการทายว่าไพ่สองใบแรกของฝั่งผู้เล่นจะออกแต้มเดียวกัน จะดอกเดียวกันหรือไม่ก็ได้

                Banker Pair  เป็นการทายว่าไพ่สองใบแรกของฝั่งเจ้ามือจะออกแต้มเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องดอกเดียวกันก็ได้

                Big          เป็นการทายว่าเกมในตานั้นจะต้องมีการจั่วไพ่ใบที่ 3 เกิดขึ้น

บาคาร่าเล่นยังไง

ปกติแล้วบาคาร่าจะใช้ไพ่ 52 ใบ จำนวน 8 สำรับ สับตำแหน่งแล้วเอาไปใส่ไว้ในขอนไพ่ จากนั้นดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ให้กับฝั่งผู้เล่นและฝั่งเจ้ามือ ฝั่งละ 2 ใบ แล้วค่อยทำการหงายไพ่ขึ้นมาเพื่อดูว่าแต้มรวมของทั้งสองฝั่งเข้าเงื่อนไขการจั่วไพ่ใบที่ 3 หรือไม่ หากไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่มก็สามารถตัดสินผลแพ้ชนะกันได้ทันที

วิธีนับแต้ม

การนับแต้มบาคาร่าจะดูแค่หน้าไพ่เท่านั้น โดยที่ดอกไพ่จะไม่มีผลต่อการตัดสินแพ้ชนะ ซึ่งไพ่แต่ละใบจะมีค่าดังนี้

• ไพ่ A มีค่าเท่ากับ 1 แต้ม
• ไพ่ 2-9 มีค่าเท่ากับหมายเลขที่แสดงบนหน้าไพ่
• ไพ่ 10, J, Q และ K มีค่าเท่ากับ 0 แต้ม

หลังจากที่รวมแต้มไพ่ได้แล้ว หากเกิน 9 แต้ม ก็จะใช้เลขหลักหน่วยในวัดผลแพ้ชนะ เช่น ฝั่งผู้เล่นได้ไพ่ 7 กับ 9 ก็เท่ากับว่ามีแต้มอยู่ทั้งหมด 6 แต้ม

ไพ่แนชเชอรัล คืออะไร

Natural เป็นการตัดสินแพ้ชนะด้วยไพ่ 2 ใบแรก ที่มีแต้มรวม 8 หรือ 9 แต้ม ซึ่งถือว่าเป็นไพ่ที่ดีที่สุดในเกมนี้ เหมือนกับป๊อก 8 หรือป๊อก 9 ในบ้านเรา เมื่อใดก็ตามที่ทั้งสองฝั่งต่างได้ไพ่แนชเชอรัล ฝั่งที่แต้มสูงกว่าจะเป็นฝ่ายชนะทันที

กฎการจั่วไพ่ใบที่ 3

เรียกได้ว่าเป็นจุดที่สร้างปัญหาให้กับนักเดิมพันมือใหม่เป็นอย่างมาก เนื่องจากความซับซ้อนของกติกานี้ทำให้หลายคนไม่ค่อยศึกษา สุดท้ายเลยไปว่าดีลเลอร์หรือคาสิโนโกง ซึ่งที่จริงแล้วมีเงื่อนไขการจั่วไพ่ ดังนี้

ถ้าผู้เล่นหรือเจ้ามือได้แต้มรวม 8-9 แต้ม

ให้จบเกมได้ทันที ถือว่าเป็นการชนะด้วยไพ่แนเชอรัล หากฝั่งไหนได้แต้มที่มากกว่าก็จะเป็นฝ่ายชนะ กรณีนี้จะไม่มีการจั่วไพ่เพิ่ม

ถ้าผู้เล่นได้แต้มรวม 6-7 แต้ม

กรณีนี้ฝั่งผู้เล่นจะต้องอยู่เฉย ๆ แล้วไปดูแต้มฝั่งเจ้ามือ

• ถ้าแต้มออกมา 6-7 แต้ม ตัดสินแพ้ชนะกันได้เลย
• ถ้าเจ้ามือได้แต้ม 0-5 แต้ม จะได้จั่วไพ่เพิ่ม 1 ใบ แล้วค่อยคิดแต้มตัดสินแพ้ชนะ

ถ้าฝั่งผู้เล่นได้แต้มรวม 0-5 แต้ม

กรณีนี้จะมีความซับซ้อนมาก เพราะฝั่งเจ้ามือก็จะสามารถจั่วไพ่เพิ่มได้ถ้าหากมีแต้มรวมดังนี้

• 0-2 แต้ม
• 3 แต้ม และไพ่ใบที่สามของผู้เล่นไม่ใช่ 8
• 4 แต้ม และไพ่ใบที่สามของผู้เล่นอยู่ระหว่าง 2-7
• 5 แต้ม และไพ่ใบที่สามของผู้เล่นอยู่ระหว่าง 4-7
• 6 แต้ม และไพ่ใบที่สามของผู้เล่นอยู่ระหว่าง 6-7

3 สูตรบาคาร่าสำหรับมือใหม่

นอกจากจะมีรูปแบบเกมหลากหลายแล้ว สูตรบาคาร่าก็มีให้เลือกใช้เยอะไม่แพ้กัน แต่ที่นิยมในหมู่นักเล่นบาคาร่ามือใหม่ก็จะมี

สูตรที่ 1 สูตรแทงทบ

จัดว่าเป็นสูตรยอดนิยมที่ใช้ง่ายที่สุด ด้วยหลักการที่ว่าเราจะเพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่าของตาที่เสีย เช่น ตาแรกแทง 10 บาท ผลออกมาเสีย ตาที่สองแทง 20 บาท ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือเมื่อเราชนะจะทำให้ได้เงินทุนของตาที่เสียไปกลับคืนมาพร้อมกับกำไรอีก 1 รอบ ส่วนใหญ่จะใช้แทงกันเพียงแค่ 5 ตาเท่านั้น หากทบเกิน 5 รอบจะทำให้เสี่ยงที่จะเสียเงินทุนก้อนโต และอาจทบต่อไม่ได้เพราะว่าเงินเดิมพันสูงเกินขีดจำกัดสูงสุดที่โต๊ะกำหนดไว้

สูตรที่ 2 แทงตาม / แทงสวน

อีกหนึ่งสูตรที่เข้าใจง่าย หลักการไม่ยุ่งยาก สูตรนี้เราจะดูจากเค้าไพ่ช่วง 10-15 ตาล่าสุดเป็นหลัก หากออกฝั่งใดฝั่งหนึ่งติดกันยาว ๆ จะเรียกว่าเค้าไพ่มังกร จังหวะนี้เราจะแทงตามฝั่งนั้นไปเลย แต่ถ้าผลออกมาสับฝั่งกันเช่น เจ้ามือ, ผู้เล่น, เจ้ามือ, ผู้เล่น ลักษณะนี้ ตาต่อไปเราจะแทงสวนโดยวางเดิมพันฝั่งตรงข้ามกับตาล่าสุด

สูตรที่ 3 แทงสี่ประตู

เป็นการแทงพร้อมกัน 4 ตำแหน่งคือ Player หรือ Banker, Double Player, Double Banker และ Tie แม้จะเป็นสูตรบาคาร่าที่เสี่ยงเสียเงิน ขณะเดียวกันก็มีโอกาสที่จะได้เงินด้วย เพราะว่าสูตรนี้เน้นการกระจายความเสี่ยงให้มีโอกาสชนะมากขึ้น หัวใจสำคัญคือต้องวางเดิมพันในแต่ละตำแหน่งให้เหมาะสม จะได้เหลือกำไรติดไม้ติดมือกันบ้าง