ไม่ว่าคุณจะเป็นคนชอบเสี่ยงขนาดไหนสุดท้ายเป้าหมายที่ต้องการก็คือเล่นรูเล็ตยังไงให้ได้กำไรชัวร์ ๆ อยู่แล้ว ใครที่ได้ศึกษารูเล็ตกันมาบ้างจะเห็นว่าเกมนี้มีรูปแบบการวางเดิมพันมากมายหลากหลายเสียเหลือเกิน จนไม่รู้ว่าจะแทงรูเล็ตยังไงดีให้ได้กำไร วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับสูตรรูเล็ตออนไลน์ที่ว่ากันว่าเป็นสูตรที่มีความเสี่ยงต่ำมาก ๆ ถึงจะกำไรไม่เยอะแต่ก็ได้กำไรชัวร์ ว่าแต่เป็นอย่างไร ไปดูกันเลย

สูตรรูเล็ตสูง-ต่ำ

สูตรรูเล็ตที่ว่านี้ไม่ได้หมายถึงการแทงรูปแบบสูง-ต่ำแต่อย่างใด ทว่ามันคือระดับความเสี่ยงที่ต้องเข้าใจก่อนเล่น คนส่วนใหญ่ที่เล่นเสียก็เพราะให้ความสำคัญกับสูตรรูเล็ตมากเกินไปจนมองข้ามเรื่องความเสี่ยง เพราะคิดว่าแค่วางเดิมพันตามสูตรเดี๋ยวก็ได้คืน สุดท้ายก็ไม่ต่างจากคนที่ใช้อารมณ์เล่น รู้ตัวอีกทีก็ไม่มีเงินเหลือติดตัวแล้ว

โดยปกติแล้วเราจะแบ่งระดับความเสี่ยงของรูเล็ตออกเป็น 2 ระดับคือ ความเสี่ยงสูงกับความเสี่ยงต่ำ ซึ่งทั้งสองจะต่างกันตรงที่รูปแบบการเล่น ยิ่งอัตราจ่ายน้อยความเสี่ยงก็จะยิ่งต่ำ ตรงกันข้ามยิ่งอัตราจ่ายสูงความเสี่ยงก็จะสูงตามไปด้วย ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยว่าความเสี่ยงแต่ละระดับนั้นต้องวางเดิมพันตรงไหน อัตราจ่ายเป็นอย่างไรกันบ้าง

รูปแบบรูเล็ตความเสี่ยงต่ำ

• ดำ – แดง หรือที่เรียกกันว่าแทงสี จะมีให้เลือกแค่สองสีเท่านั้น หากลูกบอลหยุดตรงกับสีที่เราแทงก็จะได้รับอัตราจ่าย 1 : 1
• คู่ – คี่ อันนี้จะเป็นการทายผลตัวเลข หากลูกบอลอยู่ที่หมายเลขที่เป็นเลขคู่หรือเลขคี่ตรงกับที่เราแทงไว้ อัตราจ่ายอยู่ที่ 1 : 1 เช่นกัน
• สูง – ต่ำ อันนี้จะเป็นลักษณะของการทายกลุ่มตัวเลข ซึ่งจะแบ่งให้ 1-18 เป็นเลขต่ำ และ 19-36 เป็นเลขสูง หากลูกบอลหยุดที่ช่องหมายเลขที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับที่เราแทงไว้ เช่น แทงสูง ลูกบอลหยุดที่ 21 ก็ถือว่าชนะ อัตราจ่ายคือ 1 : 1
• เต็งแถว เป็นการแทงแบบกลุ่มตัวเลขเหมือนกัน ซึ่งบนโต๊ะรูเล็ตจะแบ่งตัวเลข 1-36 ออกเป็น 3 แถว แถวละ 12 หมายเลข หากลูกบอลหยุดที่หมายเลขที่อยู่ในแถวที่เราแทงก็ถือว่าชนะ อัตราจ่าย 1 : 2
• เต็งโซน จะคล้ายกับแทงเต็งแถว แต่ว่ากลุ่มตัวเลขจะแตกต่างกันไป เงื่อนไขการชนะเหมือนกันคือ ลูกบอลต้องหยุดที่หมายเลขที่อยู่ในโซนที่เราแทง อัตราจ่าย 1 : 2

รูปแบบรูเล็ตความเสี่ยงสูง

• เต็งเลข เป็นการแทงไปที่เลขใดเลขหนึ่ง แต่ในรอบนั้นเราจะแทงกี่เลขก็ได้ ถ้าลูกบอลหยุดตรงกับหมายเลขที่แทงไว้ก็จะได้รับอัตราจ่าย 1 : 35
• ค่อม 2 เลข คือการแทงพร้อมกัน 2 หมายเลข แต่ว่าจะต้องเป็นเลขที่อยู่ติดกันบนโต๊ะรูเล็ตด้วย ถ้าออกรางวัลเลขใดเลขหนึ่งก็ถือว่าชนะ อัตราจ่าย 1 : 17
• ค่อม 3 เลข รูปแบบการแทงคือจะต้องเป็น 3 หมายเลขที่อยู่ติดกันและอยู่ในแถวเดียวกันเท่านั้น อัตราจ่าย 1 : 11
• ค่อม 4 เลข จะเป็นการแทงแบบกลุ่มตัวเลข 4 ตัวที่อยู่ติดกันในลักษณะสี่เหลี่ยมจัตุรัส อัตราจ่าย 1 : 8
• ค่อม 6 เลข เป็นการแทงพร้อมกัน 2 แถวที่อยู่ติดกันซึ่งจะมีอยู่ทั้งหมด 6 หมายเลข อัตราจ่าย 1 : 5

สูตรเดินเงินรูเล็ต ของดีที่ต้องใช้

อย่างที่ได้เกริ่นไปแล้วว่าเกมนี้เรามีโอกาสแพ้มากกว่าชนะ ดังนั้นสิ่งที่จะช่วยแก้สถานการณ์ได้ดีก็คือการใช้สูตรเดินเงินที่จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเสียเงิน และยังช่วยดึงเงินที่เสียไปกลับคืนมาอีกด้วย สูตรเดินเงินที่ว่านี้ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันมาก ๆ ก็มี Super Martingale กับ Winning Martingale นั่นเอง

สูตรรูเล็ต Super Martingale

หลักการสำคัญของสูตรนี้เลยก็คือแทงทบทุกครั้งที่แทงเสีย แต่ว่าจะเป็นการแทงทบสองเท่ากับอีก 1 หน่วย ซึ่งต่างจาก Martingale ที่แทงทบเพียงอย่างเดียว เท่ากับว่าสูตรนี้นอกจากจะต้องมีเงินทุนที่เยอะมาก ๆ แล้ว เราต้องเอาชนะให้ได้อย่างน้อย 1 ครั้งใน 5 รอบ ซึ่งวิธีใช้มีดังนี้

• ถ้าชนะให้วางเดิมพัน 1 หน่วยไปจนกว่าจะแพ้
• ถ้าแพ้ให้วางเดิมพันทบอีกเท่าตัวแล้วบวกไปอีก 1 หน่วย เช่น วางไป 1 หน่วย แพ้ รอบต่อไปวาง 3 หน่วย ถ้าแพ้อีกให้วางเดิมพัน 7 หน่วย จนกว่าจะชนะหรือว่าครบ 5 รอบ ซึ่งรูปแบบเงินทุนที่ต้องใช้ในแต่ละรอบถ้าแพ้ก็คือ 1, 3, 7, 15, 31 รวมทั้งหมด 57 หน่วย

สิ่งที่จะได้รับจากสูตรนี้หากชนะใน 5 รอบเลยก็คือเราจะได้รับเงินทุนที่เสียไปทั้งหมดกลับคืนมา พร้อมกับกำไรอีกรอบละ 1 หน่วย ยกตัวอย่างเช่น

เราแทงออกคู่ ไป 4 ตา เสียหมด เท่ากับว่าตอนนี้เราเสียทุนไปแล้ว 1 + 3 + 7 + 15 = 26 หน่วย ในรอบสุดท้ายแทงไปอีก 31 หน่วย ชนะ จะได้รับกำไรกลับมา 31 หน่วย หักทุน 4 รอบแรก เหลือกำไร 5 หน่วย เท่ากับว่าเราได้กำไรรอบละ 1 หน่วยนั่นเอง ซึ่งตรงนี้ต่างจาก Martingale คือถ้าชนะจะได้รับกำไรแค่ 1 หน่วยเท่านั้น

สูตรรูเล็ต Winning Martingale

หลังจากที่เราถอนทุนพร้อมกับกำไรด้วย Super Martingale กันไปแล้ว เราก็สามารถเพิ่มโอกาสทำกำไรได้ด้วยสูตร Winning Martingale เช่นกัน ซึ่งสูตรนี้ถือว่ามีความเสี่ยงต่ำมาก ๆ เพราะเราจะแทงทบเมื่อชนะเท่านั้นโดยใช้กำไรเล่นในรอบต่อ ๆ ไป หากแพ้ก็คือเสียกำไรที่ได้มาทั้งหมดพร้อมกับทุนอีกหนึ่งหน่วย ยกตัวอย่างเช่น

แทงคู่รอบแรก 1 หน่วย ชนะ ได้กำไรมา 1 หน่วย รอบต่อไปแทง 2 หน่วย ชนะอีก คราวนี้แทง 4 หน่วย แพ้ เท่ากับว่าในรอบนี้เราเสียกำไรที่ได้มาทั้งหมด 3 หน่วย กับทุนอีก 1 หน่วยเท่านั้น