LINE : @UFAZEEDv2 Telegram : @ufazeedv4
×
@ufazeedv4

มือใหม่ต้องรู้ กติกาพื้นฐานของโป๊กเกอร์ชอร์ตเด็ค

ในโลกของเกมไพ่คาสิโน เรามักจะคุ้นเคยกับเกมยอดนิยมอย่างแบล็คแจ็ค โป๊กเกอร์ และบาคาร่า แต่สำหรับผู้เล่นโป๊กเกอร์โฮลเอ็มที่มากประสบการณ์หลายคน พวกเขากลับเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับเกมเดิม ๆ และหันไปให้ความสนใจกับ “โป๊กเกอร์ชอร์ตเด็ค” หรือ “Short Deck Poker” แทน

แต่โป๊กเกอร์ชอร์ตเด็คคืออะไร ทำไมจึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีอะไรแตกต่างจากโป๊กเกอร์แบบดั้งเดิม บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับกติกาของเกมโป๊กเกอร์สุดฮิตนี้ รวมถึงการจัดลำดับมือและเคล็ดลับในการเอาชนะเกมแรก ๆ ของคุณ

ที่มาและความนิยมของโป๊กเกอร์ชอร์ตเด็ค

โป๊กเกอร์ชอร์ตเด็ค เป็นเกมที่ปรับมาจากเกมโป๊กเกอร์เท็กซัสโฮลเอ็มแบบดั้งเดิม โดยแตกต่างกันที่สำรับไพ่ ซึ่งจะใช้ไพ่เพียง 36 ใบ (6 ถึง A) แทนการใช้ไพ่ 52 ใบเต็มสำรับ จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “Six Plus Hold’em” เนื่องจากใช้ไพ่ตั้งแต่ 6 ขึ้นไป นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักในชื่อ “Manila” ซึ่งเป็นชื่อที่เริ่มแพร่หลายในปี 2010

เกมนี้มีต้นกำเนิดในเอเชีย และยังคงได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มนักพนันที่เล่นเดิมพันสูงในภูมิภาคนี้ กระทั่งในปี 2018 โป๊กเกอร์ชอร์ตเด็คจึงค่อย ๆ กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างไปทั่วโลก โดยการแข่งขันทัวร์นาเมนต์นานาชาติครั้งแรกเริ่มต้นที่ประเทศออสเตรเลีย จากนั้นก็แพร่ขยายไปยังยุโรปและสหรัฐอเมริกา

ผู้เล่นโป๊กเกอร์จำนวนไม่น้อยที่เริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับรูปแบบเกมโฮลเอ็มเดิม ๆ ต่างให้ความสนใจกับโป๊กเกอร์ชอร์ตเด็คอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นเกมที่มีสไตล์คล้ายคลึงแต่มีจังหวะที่แตกต่างออกไป ความตื่นเต้นของเกมนี้อยู่ที่การที่ผู้เล่นจะสามารถทำมือไพ่ที่แข็งแรงได้ง่ายกว่า เนื่องจากจำนวนไพ่ที่น้อยลง

กติกาพื้นฐานของโป๊กเกอร์ชอร์ตเด็ค

เหมือนกับเกมโป๊กเกอร์ทั่วไป โป๊กเกอร์ชอร์ตเด็คสามารถเล่นได้ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป และสูงสุดถึง 10 คน ทำให้เป็นทางเลือกยอดนิยมทั้งสำหรับการเล่นแบบส่วนตัวที่บ้าน หรือในห้องโป๊กเกอร์ออนไลน์

การเล่นเริ่มต้นจากการนำไพ่สำรับมาตรฐาน 52 ใบ มาแยกไพ่ 2, 3, 4 และ 5 ออกไป เหลือไพ่สำหรับการเล่นจริงเพียง 36 ใบ

กระบวนการเล่นโป๊กเกอร์ชอร์ตเด็คนั้นคล้ายคลึงกับโฮลเอ็มทั่วไป โดยมีขั้นตอนดังนี้

  • แจกไพ่ส่วนตัวให้ผู้เล่นคนละ 2 ใบ
  • ดีลเลอร์เปิดไพ่กลางหรือ community cards 3 ใบแรก (ฟล็อป)
  • ดำเนินการเล่นอีก 2 รอบคือ เทิร์นและริเวอร์ โดยจะเปิดไพ่กลางเพิ่มรอบละ 1 ใบ
  • มีการเดิมพันระหว่างรอบหลังจบฟล็อป, เทิร์น และริเวอร์

อย่างไรก็ดี ในแง่ของการลงเดิมพัน โป๊กเกอร์ชอร์ตเด็คมีความแตกต่างจากโฮลเอ็มทั่วไป เนื่องจากใช้รูปแบบ “button blind” โดยจะไม่มีการใช้บลายด์เล็กและใหญ่เหมือนเกมทั่วไป แต่ให้ผู้ที่นั่งตำแหน่งบนปุ่ม (button/dealer) เป็นผู้ลงเดิมพันแบบบลายด์แทน ซึ่งผู้เล่นคนอื่นจะต้องลงแอนตี้และลงเดิมพันให้เท่ากับขนาดของบลายด์บนปุ่มจึงจะสามารถคอลก่อนฟล็อปได้

การจัดลำดับความแข็งแรงของไพ่และมือนั้นก็มีความแตกต่างด้วยเช่นกัน เนื่องจากจำนวนไพ่ที่น้อยลง ทำให้กลยุทธ์หลักของผู้เล่นโป๊กเกอร์ชอร์ตเด็คจะเน้นไปที่การทำมือสเตรทมากกว่าไพ่สามเหมือน ตัวอย่างเช่น มือที่ประกอบด้วยไพ่สีเดียวกันหรือแพร์พ็อคเก็ต จึงไม่ถือว่าเป็นมือเริ่มต้นที่แข็งแรงนัก

เรียงลำดับมือและไพ่ในโป๊กเกอร์ชอร์ตเด็ค

ถึงแม้จำนวนไพ่ที่ใช้เล่นจะน้อยกว่าโฮลเอ็มทั่วไป แต่การเรียงลำดับความแข็งแรงของมือโป๊กเกอร์ชอร์ตเด็คนั้น ก็ยังคล้ายคลึงกับโฮลเอ็มอยู่มาก เว้นเพียงข้อแตกต่างสำคัญคือในชอร์ตเด็ค ไพ่ฟลัชถือว่าแข็งแรงกว่าไพ่ฟูลเฮาส์

เนื่องจากในสำรับ 36 ใบ ไพ่แต่ละสัญลักษณ์จะมีเพียง 9 ใบเท่านั้น น้อยกว่าสำรับเต็มที่มี 13 ใบ การทำมือฟลัชจึงเป็นเรื่องยากกว่า แต่ก็จะคุ้มค่ากว่าด้วยเช่นกัน จึงได้รับการจัดอันดับให้สูงกว่ามืออื่น ๆ

ต่อไปนี้คือการเรียงลำดับความแข็งแรงของมือโป๊กเกอร์ชอร์ตเด็คจากอ่อนที่สุดไปหาแข็งแรงที่สุด

  • ไพ่สูง (High Card): ไพ่ใบที่สูงที่สุดในมือของผู้เล่น
  • วันแพร์ (One Pair): ไพ่ 2 ใบที่มีแต้มเท่ากัน
  • ทูแพร์ (Two Pair): ไพ่ 2 คู่ที่มีแต้มเท่ากัน
  • สามเหมือน (Three of a Kind): ไพ่ 3 ใบที่มีแต้มเท่ากัน
  • สเตรท (Straight): ไพ่ 5 ใบที่มีแต้มเรียงกันโดยไม่จำเป็นต้องเป็นไพ่สีเดียวกัน
  • ฟูลเฮาส์ (Full House): ไพ่ 5 ใบ ประกอบด้วยสามเหมือน 1 ชุด และวันแพร์ 1 คู่
  • ฟลัช (Flush): ไพ่ 5 ใบที่เป็นสัญลักษณ์เดียวกัน
  • โฟร์ออฟอะไคนด์ (Four of a Kind): ไพ่ 4 ใบที่มีแต้มเท่ากัน
  • สเตรทฟลัช (Straight Flush): ไพ่ 5 ใบที่มีแต้มเรียงกันและเป็นสัญลักษณ์เดียวกัน
  • รอยัลฟลัช (Royal Flush): ไพ่ 5 ใบสัญลักษณ์เดียวกัน เรียงจาก 10, J, Q, K, A

แต่ก็มีบ้างที่คาสิโนหรือเกมบางแห่งจะปรับกติกาให้มีความแตกต่างออกไปจากนี้ อาทิ การจัดอันดับให้สเตรทอ่อนกว่าสามเหมือน หรือการนับไพ่ A เป็นไพ่แต้มต่ำแทนไพ่แต้มสูง ดังนั้นสิ่งสำคัญคือผู้เล่นจะต้องตรวจสอบกติกาและการจัดลำดับมือของโป๊กเกอร์ชอร์ตเด็คของแต่ละที่ให้เข้าใจก่อนเริ่มเล่นเสมอ

เทคนิคและกลยุทธ์ในโป๊กเกอร์ชอร์ตเด็ค

การย้ายจากโป๊กเกอร์รูปแบบอื่นมาเล่นโป๊กเกอร์ชอร์ตเด็คนั้นไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เล่นที่มีประสบการณ์มากในเกมเท็กซัสโฮลเอ็ม เพราะกลยุทธ์และแนวคิดส่วนใหญ่จากเกมดังกล่าวสามารถถ่ายทอดมาสู่รูปแบบที่สั้นกว่านี้ได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้เล่นมือใหม่สามารถเริ่มต้นได้อย่างราบรื่น

แต่ในแง่ของคณิตศาสตร์แล้ว โป๊กเกอร์ชอร์ตเด็คถือเป็นอีกหนึ่งเกมที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ต่อไปนี้คือเคล็ดลับและกลยุทธ์สำคัญที่ควรจดจำ

ใช้กฎ 3 และ 6 คำนวณโอกาสชนะ

ผู้เล่นสามารถประเมินโอกาสในการชนะมือได้อย่างง่ายดายโดยใช้กฎ 3-6 แทนกฎ 4-2 ของโฮลเอ็มโป๊กเกอร์ โดยจะเป็นการคำนวณจากจำนวน out ของผู้เล่น แล้วนำไปคูณด้วย 3 เมื่ออยู่บนเทิร์น หรือคูณด้วย 6 เมื่ออยู่บนฟล็อปแทน

ยกตัวอย่างเช่น หากผู้เล่นมี 5 out ในรอบเทิร์น โอกาสที่จะทำได้ตามที่ต้องการจะอยู่ที่ 15% ขณะที่ถ้ามี 5 out บนฟล็อป ก็จะมีโอกาสถึง 30% ที่จะทำสำเร็จบนไพ่ริเวอร์ แม้ว่าสูตรนี้จะไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ 100% แต่ก็ช่วยให้ผู้เล่นสามารถคาดคะเนโอกาสที่จะชนะและไพ่ที่จะออกมาคร่าว ๆ ได้ ซึ่งจะช่วยให้วางแผนกลยุทธ์การเล่นได้ดีขึ้น

เน้นเล่นสเตรท

ในเกมที่มีไพ่น้อยกว่าอย่างนี้ การทำมือฟลัชจะเป็นเรื่องที่ท้าทายมากทีเดียว ซึ่งก็เป็นเหตุผลเดียวกับที่ทำให้ฟลัชนั้นแข็งแกร่งกว่าฟูลเฮาส์

อย่างไรก็ดี การเดินเกมเพื่อทำสเตรทกลับกลายเป็นกลยุทธ์ที่ได้ผลดีในการคว้าชัยชนะ เนื่องจากในความเป็นจริงแล้ว การทำสเตรทในเกมชอร์ตเด็คนั้นง่ายกว่าในโป๊กเกอร์แบบดั้งเดิมเสียอีก ดังนั้นกลยุทธ์หนึ่งที่เหมาะกับชอร์ตเด็คคือการเล่นแบบก้าวร้าวเมื่อคุณกำลังวาดไพ่สำหรับสเตรท เพราะโอกาสที่คุณจะทำสเตรทสำเร็จเมื่อถึงไพ่ริเวอร์นั้นสูงถึง 45%

อย่าพึ่งพาแต่มือแบบแพร์เดี่ยว

หนึ่งในกลยุทธ์ที่ใช้ได้ผลกับโป๊กเกอร์รูปแบบอื่น แต่ไม่ค่อยเวิร์กกับชอร์ตเด็คนัก คือการอาศัยความแข็งแกร่งจากมือไพ่แบบพ็อกเก็ตแพร์ ผู้เล่นมือใหม่มักจะลืมไปว่า เมื่อถึงรอบฟล็อป ทุกคนมักจะพยายามทำสเตรทกันเป็นส่วนใหญ่

ไพ่ที่มีจำนวนน้อยลงยังส่งผลให้ถึงแม้คุณจะได้แพร์สูงมา คุณก็จะมีโอกาสชนะกองเดิมพันน้อยลง เพราะการสู้ด้วยแพร์สูงเพียงอย่างเดียวนั้นแทบไม่มีประสิทธิภาพเลย เนื่องจากผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะเล่นโดยคาดหวังที่จะทำสเตรทบนฟล็อปอยู่แล้ว

ด้วยเหตุนี้ มือที่มีลำดับไพ่ต่อเนื่องจึงน่าสนใจกว่า ตัวอย่างเช่น การมีไพ่ 8-9, J-Q, หรือ 10-J จะทำให้คุณมีตัวเลือกในการเล่นที่มากกว่าระหว่างเกม และยังเพิ่มโอกาสที่จะทำให้คุณเปิดหรือทำ open-ended draw ที่แข็งแรงบนฟล็อปได้ถึง 20%

ปรับใช้กลยุทธ์จากโฮลเอ็ม

แม้ว่าชอร์ตเด็คจะมีความแตกต่างไปจากโฮลเอ็มหลายประการ แต่ผู้เล่นที่เคยมีประสบการณ์กับเท็กซัสโฮลเอ็มมาก่อน จะพบว่าการย้ายมาเล่นเกมนี้ทำได้ไม่ยากนัก เพราะกลยุทธ์ในการเล่นรวมถึงแนวคิดพื้นฐานส่วนใหญ่ยังสามารถนำมาปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้เล่นใหม่สามารถเรียนรู้และเริ่มต้นเล่นชอร์ตเด็คได้อย่างรวดเร็ว

ดังนั้นหากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่แปรพักตร์จากโฮลเอ็มมาสู่โป๊กเกอร์ชอร์ตเด็ค สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างสองเกมนี้ ทั้งในแง่ของความน่าจะเป็น กลยุทธ์การเล่น และลำดับความแข็งแกร่งของไพ่ในมือ

หากคุณสามารถปรับตัวเข้ากับความแตกต่างเหล่านี้ได้ การประยุกต์ใช้กลยุทธ์ที่คุ้นเคยจากโฮลเอ็มก็จะช่วยให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการพัฒนาทักษะการเล่นสำหรับโป๊กเกอร์ชอร์ตเด็คโดยเฉพาะต่อไปในอนาคต

โดยสรุป แม้ว่าโป๊กเกอร์ชอร์ตเด็คจะมีความคล้ายคลึงกับโฮลเอ็มอยู่มาก แต่การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยที่ลดจำนวนไพ่ลงครึ่งหนึ่ง ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการโป๊กเกอร์ และทำให้ผู้เล่นจำนวนมากหันมาให้ความสนใจกับเกมนี้อย่างรวดเร็ว

ด้วยจังหวะในการเล่นที่เร็วขึ้น ความตื่นเต้นที่มากขึ้น และโอกาสในการทำมือไพ่ระดับสูงที่บ่อยกว่า โป๊กเกอร์ชอร์ตเด็คจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้เล่นที่ต้องการลองสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ในโลกของโป๊กเกอร์ โดยที่ยังคงมีความคุ้นเคยใกล้เคียงกับเกมที่พวกเขาคุ้นเคยอยู่แล้ว

หากคุณเป็นหนึ่งในผู้เล่นเหล่านั้น อย่าลืมที่จะเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจกฎกติกา กลยุทธ์ และจุดเด่นที่แตกต่างของเกมชอร์ตเด็คนี้ก่อน แล้วคุณจะพบว่าการเดินทางสู่ความสำเร็จในโป๊กเกอร์รูปแบบใหม่นี้ ไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากเกินความสามารถของคุณแต่อย่างใด

สรุปกติกาโป๊กเกอร์ชอร์ตเด็ค

หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกับที่มาและความนิยมของโป๊กเกอร์ชอร์ตเด็ค ตลอดจนเรียนรู้เทคนิคและกลยุทธ์ต่าง ๆ ในการเล่นเกมนี้แล้ว ก่อนจะจบบทความ เรามาสรุปเนื้อหาที่สำคัญเกี่ยวกับกติกาพื้นฐานของเกมนี้กันอีกครั้ง

  1. ใช้ไพ่ 36 ใบ (6-A) แทนไพ่ 52 ใบปกติ

สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้โป๊กเกอร์ชอร์ตเด็คแตกต่างจากโป๊กเกอร์รูปแบบอื่น ๆ คือการใช้สำรับไพ่ที่สั้นลง โดยจะมีเพียงไพ่ 36 ใบ ตั้งแต่ไพ่ 6 ถึง A เท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าสำรับไพ่มาตรฐานที่มี 52 ใบถึง 16 ใบ การปรับลดขนาดของสำรับไพ่นี้เองที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในแง่ของความน่าจะเป็นในการออกไพ่ รวมถึงความแข็งแกร่งของมือต่าง ๆ ซึ่งจะแตกต่างจากโป๊กเกอร์ปกติอย่างสิ้นเชิง

  1. วิธีเล่นพื้นฐานยังคล้ายโฮลเอ็ม แต่ปรับระบบบลายด์ใหม่

แม้ว่าชอร์ตเด็คจะปรับลดขนาดของสำรับไพ่ลง แต่กระบวนการในการเล่นกลับยังคงคล้ายคลึงกับเท็กซัสโฮลเอ็มอยู่มาก โดยจะเริ่มต้นจากการแจกไพ่ให้ผู้เล่นทุกคนคนละ 2 ใบ จากนั้นจะเข้าสู่ช่วงของการเดิมพัน เมื่อเสร็จสิ้นการเดิมพันรอบแรก (pre-flop) ก็จะเริ่มเข้าสู่ช่วงของการเปิดไพ่กลาง ซึ่งจะเริ่มจากการเปิดไพ่ฟล็อป 3 ใบ ตามด้วยไพ่เทิร์นและริเวอร์อีกรอบละ 1 ใบ โดยจะมีการเดิมพันเพิ่มเติมระหว่างการเปิดไพ่แต่ละรอบ

อย่างไรก็ดี สิ่งที่เปลี่ยนไปคือระบบการลงบลายด์ ซึ่งในชอร์ตเด็คจะไม่มีการใช้บลายด์เล็กและบลายด์ใหญ่แบบในโฮลเอ็ม แต่จะให้ผู้เล่นที่นั่งตำแหน่งบนปุ่ม (button/dealer) เป็นผู้วางบลายด์แทน ผู้เล่นคนอื่น ๆ จะต้องจ่ายเงินแอนตี้เพื่อเข้าเล่น และจะต้องลงเดิมพันให้เท่ากับจำนวนของบลายด์บนปุ่ม จึงจะสามารถเข้าร่วมในรอบพรีฟล็อปได้

  1. ความแข็งแรงของมือไพ่เปลี่ยนไป Flush แซงหน้า Full House

อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโป๊กเกอร์ชอร์ตเด็คคือการจัดลำดับความแข็งแรงของมือไพ่ และการเพิ่มคุณค่าให้กับมือไพ่บางชนิดที่เดิมทีอาจไม่ค่อยมีความสำคัญมากนักในเกมปกติ จากการที่มีการปรับลดจำนวนไพ่ในสำรับลง ทำให้ไพ่แต่ละสัญลักษณ์มีจำนวนลดลงจาก 13 ใบเหลือเพียง 9 ใบ ดังนั้นการทำมือฟลัชที่ต้องใช้ไพ่ 5 ใบจากสัญลักษณ์เดียวกัน จึงกลายเป็นเรื่องที่ยากกว่าปกติ

จากเหตุผลนี้ ในชอร์ตเด็คจึงมีการปรับลำดับความแข็งแกร่งใหม่ โดยให้มือ ฟลัช (Flush) มีความสำคัญสูงกว่า ฟูลเฮาส์ (Full House) ซึ่งแตกต่างจากโป๊กเกอร์ทั่วไปที่ฟูลเฮาส์จะเหนือกว่าฟลัช นอกจากนี้ยังมีการปรับความสำคัญให้มือ สเตรท (Straight) ที่ไม่ค่อยมีบทบาทในเกมปกติ กลายเป็นมือที่มีความสำคัญและเป็นที่นิยมในการเล่นชอร์ตเด็คมากขึ้น เนื่องจากในเกมนี้สเตรทจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าในเกมไพ่ 52 ใบมาตรฐาน

อย่างไรก็ตาม การจัดลำดับความแข็งแกร่งของมือไพ่ในชอร์ตเด็คนั้น อาจมีความแตกต่างกันไปบ้างในแต่ละสถานที่หรือรูปแบบการเล่น ดังนั้นสิ่งสำคัญคือผู้เล่นจะต้องศึกษากติกาของเกมให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนเริ่มเล่นเสมอ

สรุป

ถึงแม้โป๊กเกอร์ชอร์ตเด็คจะเป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่ถูกปรับให้มีความแปลกใหม่และน่าตื่นเต้นมากขึ้น แต่ผู้เล่นที่คุ้นเคยกับเท็กซัสโฮลเอ็มอยู่แล้ว ก็ไม่น่าจะใช้เวลานานในการเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับเกมนี้ เพียงแค่ทำความเข้าใจในจุดที่แตกต่าง ทั้งในแง่กติกา ความน่าจะเป็น และลำดับความแข็งแกร่งของไพ่ในรูปแบบใหม่นี้ ผู้เล่นก็จะสามารถนำทักษะและกลยุทธ์ที่มีอยู่ มาปรับใช้เพื่อเอาชนะเกมได้ไม่ยากนัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณสามารถเข้าใจได้ว่า ไพ่สำรับที่สั้นลงส่งผลกับความน่าจะเป็นในการออกไพ่ชุดต่าง ๆ อย่างไรบ้าง คุณจะเริ่มมองเห็นความได้เปรียบและความเสียเปรียบของไพ่ในมือและไพ่กลางได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จะช่วยให้คุณปรับแต่งกลยุทธ์การเล่น ทั้งในแง่ของการประเมินมือเริ่มต้น การตัดสินใจเดิมพัน และการวางแผนเกมระยะยาว ให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับโป๊กเกอร์ชอร์ตเด็ค

ด้วยความเร็วและความคาดเดาไม่ได้ที่เพิ่มขึ้น ชอร์ตเด็คจึงเป็นเกมที่เหมาะกับผู้เล่นที่ชอบความตื่นเต้นและความท้าทาย ดังนั้น หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบในสไตล์การเล่นเช่นนี้ การศึกษากติกาและลองเล่นเกมชอร์ตเด็คดูสักตา ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณ